ปวดร้าว! หนุ่มทิ้งเมีย หนีออกจากบ้านไปกับ สาวยูเครน ที่ลี้ภัยที่บ้าน

ปวดร้าว! หนุ่มทิ้งเมีย หนีออกจากบ้านไปกับ สาวยูเครน ที่ลี้ภัยที่บ้าน

หญิงชาวอังกฤษออกมาเล่าประสบการณ์สุดปวดร้าวหลัง หนุ่มทิ้งเมีย ที่อยู่กินด้วยกันมานาน 10 ปี เพื่อไปอยู่กับ สาวยูเครน ที่พวกเขารับมาลี้ภัยสงครามที่บ้าน เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม สำนักข่าว เดลี่เมลล์ ได้เผยสัมภาษณ์ของ นาง ลอร์นา การ์เน็ต หญิงสาวชาวอังกฤษแม่ลูกสามที่ออกมาเปิดเผยว่าเธอถูกสามีของเธอทิ้งไป หลังจากที่เธอรับสาวยูเครนมาลี้ภัย เนื่องจากสงครามระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครนที่เริ่มต้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์

โดยนาง การ์เน็ต เล่าว่าเธอกับสามีคนนี้แต่งงานกันมา 10 ปี และ โทนี่ 

สามีของเธอก็ได้เคยบอกว่าเขาอยากจะใช้ชีวิตกับเธอไปตลอดชีวิต จนกระทั้ง หญิงชาวยูเครนชื่อโซเฟีย คาร์คาดิม ย้ายเข้ามาในบ้าน ในช่วงเดือนต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายสาวที่ถูกทิ้งเล่าว่า ตอนแรกเธอก็ไม่มั่นใจว่าเธอควรจะให้ โซเฟีย ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยไหม เพราะเธอกลัวถูกหลอก แต่ท้ายที่สุดแล้วเธอก็ตัดสินใจให้หญิงชาวยูเครนย้ายเข้ามาอยู่ด้วย เพราะเธอชื่อว่านั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

อย่างไรก็ตามนางการ์เน็ตเชื่อว่า โซเฟียน่าจะอยาก “ขโมย” โทนี่ของเธอตั้งแต่แรกแล้ว และระบุว่าโซเฟียไม่แคร์ว่าเธอจะสร้างความเสียหายอะไรไว้ให้กับครอบครัวของเธอ และครอบครัวของเธอต้องเผชิญกับการเปลี่ยนในช่วงเพียงแค่สองสัปดาห์

โซเฟียย้ายมาอยู่ในบ้านของครอบครัวการ์เน็ตตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม ซึ่ง โทนี่ และ โซเฟีย สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว ขณะที่ลูกๆของพวกเขาก็ค่อนข้างชื่นชอบในตัวของ โซเฟีย เช่นกัน โดยโทนี่มักจะคุยภาษาสโลวาเกียกับทางสาวยูเครน แม้จะไม่ได้เข้าใจทั้งหมด แต่ทั้งสองภาษามีความคล้ายคลึงกันมาก ทำให้เข้าใจกันได้

โซเฟียและโทนี่เริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้น จนทำให้ทาง ลอร์นา รู้สึกหึง จนทำให้บรรยากาศภายในบ้านแย่ลง จนทำให้ทางโซเฟียตัดสินใจย้ายออก โดยทางโทนี่ได้บอกกับภรรยาว่า “ถ้าโซเฟียย้ายออก เขาจะไปด้วย” ก่อนที่ทั้งคู่จะแพ็คกระเป๋าออกจากบ้านไปจริงๆ

ด้าน โทนี่ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า เขารู้สึกขอโทษอดีตภรรยาของเขา และทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความผิดของเธอ พร้อมยืนยันว่าพวกเขาไม่เคยมีเจตนาที่จะให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ เร่งตามล่ามือปืน ยิงคนบนรถไฟใต้ดินนิวยอร์ก เสียชีวิตกลางรถไฟ เผยคนร้ายมือปืนไม่รู้จักกันมาก่อน เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม สำนักข่าว CNN รายงานว่า ชายวัย 48 ปี เสียชีวิตหลังถูกยิงกลางอกภายในรถไฟใต้ดินของนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตเพียงศพเดียว และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเติม

ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตามล่าตัวคนร้าย และยังไม่มีรายงานการจับกุมผู้ต้องสงสัย เบื้องต้นจ้าหน้าที่ตำรวจบรรยายผู้ก่อเหตุว่า เป็นชายผิวดำที่มีหนวดรุงรัง

ทางพยานได้ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ผู้ก่อเหตุเดินไปเดินมาในขบวนรถไฟดังกล่าวก่อนชักปืนยิงเข้าใส่อกผู้ตายในระยะประชิด ซึ่งก่อนเกิดเหตุนั้น ผู้ตายและผู้ก่อเหตุไม่ได้พูดคุยกัน และไม่มีประวัติว่ารู้จักมาก่อนอีกด้วย ซึ่งหลังก่อเหตุคนร้ายก็ได้วิ่งหนีออกจากขบวนรถไฟ

ดราม่า! ร้านอาหารไทยในจีน สั่งเก็บ ขวดชานม เหมือนน้ำยาซักผ้า หวั่นคนเข้าใจผิด

ถือว่าเป็นดราม่าข้ามประเทศก็ว่าได้กับการที่ ร้านอาหารไทยในจีน ได้ทำการสั่งเก็บ ขวดชานม ที่ดูเหมือนกับน้ำยาซักผ้า หลังจากที่ได้รับเสียงวิจารณ์กังวลการเข้าใจผิด ร้านอาหารไทยในจีน, ขวดชานม (24 พ.ค. 2565) นับว่าเป็นอีกหนึ่งดราม่าข้ามประเทศที่มีฐานมาจากไทยก็ว่าได้กับดราม่าร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งภายในประเทศจีน ที่ได้ทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ชานมของร้าน ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับผลิตภัณฑ์น้ำยาซักผ้า จนเกิดเสียงวิจารณ์เป็นอย่างยิ่ง และทำให้มีการเก็บผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปในที่สุด

ข่าวดังกล่าวนั้น ได้ปรากฏบนเว็บไซต์ Next Shark ที่ได้รายงานว่า ร้านอาหาร Nanyeli Thai Food Restaurant ที่ตั้งอยู่ในเมืองหนานจิง มณฑลเจียงซู ประเทศสาธาณรัฐประชาชนจีน ทำการเปิดตัวชานมแบบไทย ที่มีออกแบบบรรจุภัณฑ์ในลักษณะขวดที่มีสี ฉลาก หูจับ รวมถึงฝาปิด ที่ดูเหมือนกับผลิตภัณฑ์น้ำยาซักผ้า โดยชานมที่ว่าก็ได้มีการวางขายในร้านค้าทั้ง 3 สาขาทั่วเมือง ซึ่งก็มีผู้ให้ความสนใจ และทำการซื้อกันเป็นจำนวนหนึ่ง

แต่ด้วยความคล้ายคลึงกับผลิตภัณฑ์น้ำยาซักผ้าที่เกินไปนั้น ก็ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ว่า บรรจุภัณฑ์จะสร้างความสับสน และความเข้าใจผิดให้กับผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนที่อาจจะจำสลับขวดชานมดังกล่าวกับขวดน้ำยาซักผ้าได้ ซึ่งก็จะก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้

พร้อมกันนี้ก็มีเสียงวิจารณ์อีกสายมาถึงลักษณะของบรรจุภัณฑ์ว่า ไม่ได้ดึงดูดให้ชวนดื่ม หรือน่าซื้อแต่อย่างใด และยังเป็นการออกแบบที่ไม่ดีอีกด้วย

โดยทางร้าน Nanyeli Thai Food Restaurant ได้ชี้แจงในภายหลังว่า ได้รับทราบปัญหาดังกล่าว และจะดำเนินการเก็บสินค้า รวมถึงปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้เป็นแบบใหม่ เพื่อความสบายใจ และความชัดเจนต่อผู้บริโภค แต่ทั้งนี้แล้วนั้น พนักงานรายหนึ่งของร้านได้แสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากการเปลี่ยนแปลงไปแล้วนั้น ยอดขายของตัวชานมที่ว่าก็มีการลดลงไปด้วย

แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น